ทำตามหลักการ
........วันนี้นั่งอ่านบทความคอมพิวเตอร์ตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็น ซึ่งตาม style ผม เวลาผมนั่งอ่านอะไรก็ตามที่ไม่ได้ seriuos มากนัก ผมจะเปิดเพลงฟังไปด้วย เรื่องมันก็มีอยู่ว่าวันนี้ฝนตกทั้งวันเลย ซึ่งตอนแรกที่ฝนตกเนี่ย มันก็ตกพรำๆครับ อากาศกำลังเย็นสบาย แต่พอสัก 16.30 น. ฝนตกหนักขึ้น เสียงฝนมารบกวนการฟังเพลงของผม(ตกลงมันอ่านบทความหรือฟังเพลงวะ :P) ผมก็เลยต้องเปิดเสียงเพลงให้ดังขึ้น ไม่งั้นมันก็ฟังไม่รู้เรื่องอ่ะดิ แค่นี้ก็น่าจะจบ แต่....ลองคิดดูสิว่า "ถ้าเราเปิดเสียงดังขึ้น มันก็จะกินไฟมากขึ้น" ผมขี้งก เพราะฉะนั้นเรื่องอะไรผมจะยอมเสียค่าไฟเพิ่ม ก็เลยขอย้อนกลับไปใช้หลักวิชาการในการแก้ปัญหากันหน่อย
........จากที่เราเคยเรียน Safety Engineering ได้กล่าวไว้ว่า การแก้ปัญหาเรื่องมลพิษทางเสียง มีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี
........จากที่เราเคยเรียน Safety Engineering ได้กล่าวไว้ว่า การแก้ปัญหาเรื่องมลพิษทางเสียง มีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี
- จัดการที่ตัวกำเนิดเสียง ก็คือกำจัดต้นเหตุหรือตัวก่อมลพิษทางเสียง ซึ่งในที่นี้ก็คือ ฝน แต่ผมก็ไม่สามารถทำให้ฝนหยุดตกได้ ดังนั้น ข้อนี้ผ่าน
- จัดการที่ตัวกลางหรือพาหะนำเสียง ก็คือปิดกั้นหรือขัดขวางการเดินทางของเสียงผ่านตัวกลาง ซึ่งในที่นี้ก็เช่นการปิดหน้าต่าง ข้อนี้เข้าท่า เป็นตัวเลือก
- จัดการที่ผู้รับเสียง ก็คือการป้องกันไม่ให้เสียงมาถึงผู้ฟัง ซึ่งในที่นี้ก็เช่น ใส่ Headphone, Earplug ข้อนี้ก็เข้าท่า เป็นตัวเลือก
........เมื่อผมลองคิดดูแล้ว สรุปผมเลือกข้อสอง ด้วยเหตุผลสนับสนุนดังนี้
- กระทำได้ง่าย แค่ลุกไปปิดหน้าต่าง
- ป้องกันเสียงอย่างอื่นได้ด้วยนอกจากเสียงฝนตก
- เปิดเสียงเพลงดังเท่าเดิม ประหยัดไฟ
- ไม่ต้องถอดสายเสียบลำโพง เพื่อต่อ Headphone ให้ยุ่งยาก และที่สำคัญคือผมก็ไม่ต้องไปนั่งขุด Headphone ในตู้
- ไม่ต้องมารู้สึกรำคาญที่จะต้องมีอะไรมาครอบหัวและเสียบอยู่ที่หู และสายที่จะมาเกะกะ Keyboard อีก
........มีเหตุผล คิดรอบคอบ เข้าท่าที่สุดแล้ว เอาล่ะ....ไปปิดหน้าต่างเรียบร้อย ฟังเพลงมีความสุข ประหยัดไฟ ไม่ต้องเปิดเพลงเสียงดัง แต่ซักพัก.....ร้อนว่ะ! เปิดแอร์ดีกว่า o"-___-"o
........ทำไมกูไม่ปิดเพลง แล้วฟังเสียงฝนแทนเสียงเพลงวะ ได้ทุกอย่าง ไม่ต้องเสียอะไรเลย
- ประหยัดไฟสุดๆ
- ไม่ต้องลุกไปปิดหน้าต่าง
- ไม่ต้องถอดสายลำโพงเพื่อเสียบ Headphone ให้ยุ่งยาก
- ไม่ต้องไปขุด Headphone ในตู้
- ไม่ต้องมารำคาญอะไรครอบหัว และสายเกะกะ Keyboard
- ไม่ต้องนั่งพิมพ์อะไรปัญญาอ่อนอย่างนี้!!!
จากเหตุการณ์นี้ขอสรุปสั้นๆว่า "ทุกข์อยู่ที่ใจ"
อาเมน
0 Comments:
Post a Comment
<< Home